นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยในการเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus) 1 ใน 8 โครงการสำคัญ ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ว่า ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ชี้ให้เห็นว่าระหว่างปี 2557-2565 มีเหตุการณ์เด็กอายุ 2-6 ปี ถูกลืม และทิ้งให้อยู่ในรถโรงเรียนตามลำพังมากถึง 130 เหตุการณ์ และเสียชีวิตถึง 7 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง

ดีป้าจึงเร่งดำเนินโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย ด้วยการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับรถรับส่งนักเรียน อีกทั้ง เป็นการคลายความกังวลให้กับผู้ปกครอง

“โครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย ส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมดิจิทัล ด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันให้กับการเดินทางโดยรถรับส่งนักเรียนระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมต้น นำร่องใน 7 พื้นที่เมืองอัจฉริยะที่มีความพร้อม คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ตลอดจนพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนขยายผลไปยังพื้นที่อื่น นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างระบบบริหารจัดการรถรับส่งนักเรียนอัจฉริยะต้นแบบ (Smart School Bus Showcase) ที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน ผู้ปกครอง และความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่เมืองอัจฉริยะที่มีความพร้อม พัฒนาระบบ และข้อมูลการเชื่อมต่อการรับส่งนักเรียนแบบบูรณาการ โดยส่งเสริมให้เกิด Smart School Bus Big Data Platform และ Smart School Bus Intelligent Operation Center ในแต่ละพื้นที่ คาดว่าจะช่วยลดความเสี่ยง สร้างความปลอดภัย และเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับทุกโรงเรียนทั่วประเทศในอนาคต” นายชัยวุฒิ กล่าว

• ‘ศานนท์’ แง้ม อนาคตจะตั้ง ‘สภาคนรุ่นใหม่’

• งานวิจัยเผยจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักรเกือบจะแพงพอๆ กับน้ำมันเบนซินแล้ว

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า จุดเด่นของโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัยอยู่ที่การติดตั้งระบบ GPS เพื่อติดตามรถ และนักเรียน พร้อมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะประมวลผล และรายงานผลการขับขี่ ข้อมูลรถ ความเร็ว

รวมถึง สถานะของนักเรียน ก่อนส่งไปยังแอพพลิเคชั่นสำหรับผู้ปกครอง และเว็บเบราเซอร์สำหรับโรงเรียน ซึ่งเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย อีกทั้ง ช่วยแก้ไขปัญหา และป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด รวมถึง อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

“อุปกรณ์ติดตามตำแหน่ง จะช่วยให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางจัดการข้อมูลการใช้งานทั้งหมด ซึ่งผู้ปกครองอุ่นใจได้ว่านักเรียนจะได้รับความปลอดภัยตลอดการเดินทาง คนขับรถสามารถตรวจสอบนักเรียนขึ้นรถ และรายงานสถานะผ่านแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ปกครองจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อรถใกล้มารับนักเรียนที่บ้าน นักเรียนลงรถที่โรงเรียน และนักเรียนถึงบ้าน ระบบป้องกันการลืมเด็กในรถโรงเรียน ตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในรถ อุปกรณ์ติดตามนักเรียนแจ้งผ่านอุปกรณ์ติดรถ การกดแจ้งเหตุฉุกเฉิน และโรงเรียนสามารถโทรเข้าไปที่รถ ซึ่งระบบจะรับสายอัตโนมัติ” ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว

ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีโรงเรียนประถม และมัธยมของรัฐ กว่า 300 โรง ได้รับการติดตั้งระบบ Smart School Bus กว่า 3,000 คัน ประเมินว่าจะมีนักเรียนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 30,000 คน

ขณะเดียวกันมีโรงเรียนประถม และมัธยมของเอกชน ไม่น้อยกว่า 50 โรง ได้รับการติดตั้งติดตั้งระบบ Smart School Bus กว่า 500 คัน มีนักเรียนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 5,000 คน บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ได้รับประโยชน์มากกว่า 14,000 คน

ทั้งนี้ ดีป้าจะเร่งขยายผลไปยังโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ และตั้งเป้าครอบคลุมทุกโรงเรียนทั่วประเทศในระยะเวลาอันใกล้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ jtgreendds.com